เด็กดื้อ
เด็กดื้อ ในความหมายของคนทั่วไปน่าจะหมายถึงเด็กที่ต่อต้านไม่เชื่อฟังในเด็กเล็ก เด็กอาจอาละวาดเพื่อแสดงความเป็นตัวของตัวเอง ซึ่งอาจถือเป็นพัฒนาการปกติ และจะถือว่าผิดปกติเมื่ออาการเป็นมากและไม่อยู่ในกฎเกณฑ์ทั่วไปของสังคม
แค่ไหนถึงจัดว่าดื้อผิดปกติ?
อาการของเด็กดื้อ เด็กมีความดื้อรั้น ฝ่าฝืนคำสั่งและกฎเกณฑ์ เมื่อรุนแรงขึ้นก็อาจแสดงความก้าวร้าว
และเมื่อเป็นมากขึ้นในเด็กโตจะแสดงอาการต่อต้านสังคม ซึ่งนำไปสู่การละเมิดสิทธิ์ของผู้อื่นทั้งทางทรัพย์สิน
และร่างกาย ซึ่งในที่สุดอาจพัฒนาเป็นผู้ใหญ่ที่มีปัญหาบุคลิกภาพ
สมาคมจิตแพทย์อเมริกันกำหนดการวินิจฉัยว่าเด็กมีความผิดปกติแบบดื้อดึงและต่อต้านเมื่อมีอาการต่อไปนี้
อย่างน้อย 4 อาการติดต่อกันเป็นเวลา 6 เดือน
1. ควบคุมอารมณ์ไม่ได้บ่อย ๆ
2. เถียงและทะเลาะกับผู้ใหญ่บ่อย ๆ
3. ดื้อดึง ท้าทาย และฝ่าฝืนคำสั่งของผู้ใหญ่และกฎเกณฑ์บ่อย ๆ
4. ตั้งใจรบกวนคนอื่นบ่อย ๆ
5. โยนความผิดให้คนอื่นบ่อย ๆ
6. อารมณ์เสียและโกรธง่ายบ่อย ๆ
7. โกรธและไม่พอใจบ่อย ๆ
8. แกล้งและแก้แค้นอาฆาตพยาบาทบ่อย ๆ
ส่วนในเด็กโตจะได้รับการวินิจฉัยเป็นความประพฤติผิดปกติเมื่อมีอาการต่อไปนี้อย่างน้อย 3 อาการเป็นเวลา 1 ปี
1. ขู่เข็ญ คุมคามคนอื่นบ่อย ๆ
2. เริ่มต้นการต่อสู่ ลงไม้ลงมือ ใช้กำลังบ่อย ๆ
3. เคยใช้อาวุธร้ายแรงในการต่อสู้
4. ดุร้ายรังแกบุคคลอื่น
5. ดุร้ายรังแกสัตว์
6. ขโมยของโดยการใช้กำลังบังคับ
7. บังคับผู้อื่นในกิจกรรมทางเพศ
8. จุดไฟเผา ก่อให้เกิดความเสียหาย
9. ทำลายทรัพย์สินของผู้อื่น
10. บุกบ้านหรือใช้รถยนต์คนอื่นโดยไม่ได้รับอนุญาต
11. หลอกลวงคนอื่น
12. ขโมยโดยไม่ใช้กำลังบังคับ
13. เที่ยวกลางคืนโดยไม่ได้รับอนุญาตบ่อย ๆ
14. หนีออกจากบ้านข้ามคืน 2 ครั้งขึ้นไป
15. หนีโรงเรียนบ่อย ครั้งแรกตั้งแต่อายุต่ำกว่า 13 ปี
เด็กดื้ออาจมีปัญหาทางสุขภาพจิตอื่นที่พบร่วมด้วย ซึ่งเป็นทั้งสาเหตุและผลลัพธ์ของพฤติกรรมนี้ คือ
1.ความล้มเหลวทางการศึกษาเด็กดื้อมักมีปัญหาการเรียน เช่น มีความบกพร่องทางการอ่าน
ที่เรียกว่า Learning Disorder (LD) ซึ่งเป็นปัญหาทางสมองทำให้ไม่พร้อมต่อการเรียน เช่น
คิดเลขไม่ได้ สะกดคำผิดๆถูกๆ เรามักพบว่าเด็กที่มีปัญหาการเรียนจะมีปัญหาความประพฤติ
ร่วมด้วย
2.สัมพันธภาพไม่ดีกับผู้อื่น เด็กดื้อมักถูกปฏิเสธ รังเกียจและไม่เป็นที่ชื่นชอบของเพื่อน มักจะ
ไม่มีเพื่อนสนิทที่คบกันนาน ๆ ขาดทักษะทางสังคมในการติดต่อกับเพื่อนและผู้ใหญ่ มีพฤติกรรม
ต่อต้านสังคม
3..ปัญหาการปรับตัว เด็กที่มีความเครียด เช่น มีการสูญเสียคนที่รัก จะมีปัญหาความประพฤติได้
ซึ่งอาจเป็นในเวลาสั้น ๆ แล้วหมดไปเมื่อปรับตัวได้
4.โรคสมาธิสั้น เด็กที่เป็นโรคสมาธิสั้นจะซน อยู่ไม่นิ่งและมีปัญหาความประพฤติ เช่น ดื้อได้
5.การที่พ่อแม่คาดหวังในตัวเด็กมากเกินไป เด็กทำไม่ได้ เครียดขึ้น ทำให้เด็กดื้อและต่อต้าน
โดยการประชด
6.การมีสังคมและกลุ่มเพื่อนที่มีพฤติกรรมต้านสังคม เช่น จับกลุ่มกันเสพสารเสพติด การลักเล็ก
ขโมยน้อย ทำพฤติกรรมเสี่ยงอันตราย เพื่อจะเป็นที่ยอมรับในกลุ่ม
7.ปัญหาทางสุขภาพจิตอื่น ๆ นำมาก่อนเช่น ภาวะซึมเศร้า
ความดื้อเป็นปัญหาทางกรรมพันธุ์หรือไม่?
ความประพฤติผิดปกติมักมีประวัติถ่ายทอดถึงกันในครอบครัวซึ่งมีสาเหตุมาจากการอยู่ในสิ่งแวดล้อม
เดียวกันมากกว่าการถ่ายทอดทางพันธุกรรม
ทำไมเด็กถึงดื้อ?
1. สาเหตุจากตัวเด็กเอง
เด็กที่มีพื้นฐานอารมณ์และรูปแบบของพฤติกรรมอยู่ในกลุ่มเลี้ยงยาก มีแนวโน้มที่จะมีปัญหาก้าวร้าว
มีการศึกษา พบว่า เด็กเหล่านี้มีแนวโน้มที่จะแปลการกระทำที่เป็นกลางธรรมดาทั่วไปเป็นการประสงค์ร้าย
การเกลียดชัง คัดค้าน และแสดงความเป็นปรปักษ์และศัตรูกัน ทำให้เพื่อนไม่ชอบ รังเกียจ และปฏิเสธ
ซึ่งทำให้เด็กมีความคิดอ่านแบบเดิมเพิ่มขึ้นอีก เด็กส่วนใหญ่ขาดทักษะทางสังคม ขาดความนับถือตัวเอง
และรู้สึกซึมเศร้า
2. สาเหตุจากครอบครัว แบ่งได้เป็น
· ความเจ็บป่วยทางจิตของพ่อแม่นำไปสู่ความขัดแย้งในชีวิตสมรสและปัญหาในการเลี้ยงดูเด็ก
· ปัญหาความประพฤติของพ่อแม่ เช่น มีประวัติอาชญากร ทำให้เด็กอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ไม่ดี
· วิธีการเลี้ยงดูบุตร ความขัดแย้งระหว่างพ่อแม่ ความเกลียดชังลูก การขาดความรักความอบอุ่น
การขาดการสั่งสอนชี้แนะและการฝึกระเบียบที่สม่ำเสมอเด็กนั้นไม่ได้รับโอกาสให้พบและเรียนรู้
กฏเกณฑ์ทางสังคมจากพ่อแม่ที่ตามใจ และการลงโทษที่รุนแรงเกินไป
· รูปแบบของปฏิสัมพันธ์ระหว่างพ่อแม่และลูก พฤติกรรมที่ผิดปกติจะมากขึ้น ถ้าเด็กได้รับความ
สนใจเพิ่มเมื่อทำผิด เช่น ทำพฤติกรรมไม่ดีแล้วพ่อแม่สนใจมากขึ้น หรืออาละวาดแล้วพ่อแม่เลย
ยอมตามใจ
· การถูกล่วงเกินทางเพศ
3.สาเหตุจากสังคมรอบตัว
อิทธิพลของโรงเรียน โรงเรียนที่ไม่ดีพอสามารถทำให้เด็กที่ไม่เคยมีปัญหาที่บ้านมีปัญหาได้
ตัวอย่างโรงเรียนที่ไม่ดี เช่น โรงเรียนที่มีการบริหารจัดการไม่ดี ไม่มีกฎระเบียบควบคุมนักเรียนที่
มั่นคงพอ บุคลากรน้อยและขาดขวัญและกำลังใจ เปลี่ยนบุคลากรบ่อยและไม่ค่อยติดต่อกับผู้ปกครอง
ปัจจัยทางสังคมอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องและมีผลต่อความประพฤติ เช่น อยู่ในชุมชนแออัด
เด็กมีความอัตคัตขาดแคลนและเพื่อนบ้านที่เป็นตัวอย่างที่ไม่ดี
เด็กดื้อๆเหล่านี้โตขึ้นไปจะเป็นอย่างไร?
จากการศึกษาติดตามพบว่าร้อยละ 40 ของเด็กที่ได้รับการวินิจฉัยเป็นโรคความประพฤติผิดปกติ
โตเป็นวัยรุ่นที่ทำผิดกฏหมายและยังคงมีปัญหาความประพฤติและปัญหาความสัมพันธ์กับผู้อื่นอย่างต่อเนื่อง
การศึกษาย้อนหลังของวัยรุ่นที่ทำผิดกฎหมาย พบว่า ร้อยละ 90 มีปัญหาประพฤติผิดปกติในวัยเด็ก จึงน่า
เป็นห่วงถ้ามีปัญหาในวัยเด็กแล้วไม่ได้แก้ไข
โดยทั่วไปเด็กที่เป็นโรคความประพฤติผิดปกติ นอกจากจะโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีความเสี่ยงที่จะมี
โรคทางจิตเวชและทำผิดกฎหมายแล้ว ส่วนใหญ่ยังคงโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีข้อด้อยทางสังคม ขาดการศึกษา
ตกงาน และมีปัญหาด้านความสัมพันธ์ เช่น การแยกทางกับคู่สมรส
จะแก้ปัญหาเด็กดื้อกันอย่างไรดี?
การช่วยเหลือควรเน้นทั้งที่ตัวเด็กและครอบครัว ขณะที่การวางแผนป้องกันในชุมชนส่วนรวมก็มีความสำคัญมาก
การช่วยเหลือที่เน้นที่ตัวเด็ก
1.การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมหรือพฤติกรรมบำบัด เน้นการให้รางวัลกับการทำพฤติกรรมดี ไม่ใช่ทำโทษ
2.การฝึกพัฒนาทักษะการแก้ปัญหาและการเข้าสังคม
3.ถ้าสงสัยเป็นโรคสมาธิสั้น หรือปัญหาทางสุขภาพจิตอื่นๆ ควรพาพบจิตแพทย์เพื่อรักษา
การช่วยเหลือเน้นที่ครอบครัว
1.การให้คำปรึกษาแก่ครอบครัวและความช่วยเหลือทางสังคม
2.ครอบครัวบำบัด เช่น การกำหนดขอบเขตระหว่างบุคคลของเด็กและผู้ปกครองอย่างชัดเจน การปรับ
ปรุงบรรยากาศและการใช้อารมณ์ในครอบครัว ให้เด็กรู้สึกอยู่แล้วมีความสุข
3.การฝึกอบรมผู้ปกครอง ฝึกให้พ่อแม่ผู้ปกครองให้ความสนใจกับพฤติกรรมดีที่ต้องการมากกว่าคิดหมก
หมุ่นอยู่กับเรื่องไม่ดีของเด็ก เอาแต่บ่น ตำหนิ และทำโทษ ส่งเสริมให้พ่อแม่ผู้ปกครองและเด็กมีความ
สัมพันธ์ที่ดีต่อกัน
|
|
รอบรู้เรื่องสุขภาพจิตเด็ก
|